เทพเจ้าจงขุ่ย เทพผู้กำราบเหล่าผี
วันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี ตามความเชื่อของฝั่งตะวันตก จะถือว่าวันนี้เป็นวันที่วิญญาณร้ายจะออกมาจากนรก ผู้คนทั้งหลายจึงพยายามแต่งตัวเลียนแบบวิญญาณ เพื่อที่ว่าวิญญาณร้ายจะสับสนและไม่ทำร้ายตน
สำหรับชาวจีนนั้นก็มีความเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณร้ายหรือปีศาจออกอาละวาดทำร้ายประชาชนหลายเรื่อง ซึ่งเทพเจ้าที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากในด้านการปราบปีศาจที่คนจีนยกย่องคือ เทพเจ้าจงขุ่ย
โดยตำนานเล่าว่า เทพเจ้าจงขุ่ยเคยเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์ถัง เคยมาสอบจอหงวนได้ในสมัยถังเกาจงฮ่องเต้ แต่เนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่น่ากลัวและอัปลักษณ์ จึงทำให้ทดสอบไม่ผ่าน ด้วยความผิดหวังจึงโดดน้ำฆ่าตัวตาย เมื่อถังเกาจงฮ่องเต้ทราบข่าวจึงเกิดความเมตตาสงสาร ทรงพระราชทานชุดขุนนางฝ่ายบุ๋นให้เป็นกรณีพิเศษและจัดพิธีศพให้ จงขุ่ยทราบซึ้งเป็นอย่างมากจึงตั้งใจที่จะพิทักษ์อารักขาฮ่องเต้ราชวงศ์ต้าถัง
ต่อมาในสมัยถังเสวียนจงฮ่องเต้ (บางตำนานเล่าว่าเป็นสมับถังหมินหวัง) ได้ทรงประชวรอย่างหนัก คืนหนึ่งได้ทรงพระสุบินว่า มีผีน้อยตนหนึ่งเข้ามาขโมยขลุ่ยหยกของพระองค์ ทันใดนั้นก็ปรากฏผีอีกตนหนึ่งใส่ชุดขุนนางสีแดง หน้าตาดุดัน หนวดเคราชี้ชัน ออกมาจับผีน้อยตนนั้น จับหักแขนขาและควักลูกตาออกมากิน
ฮ่องเต้ตื่นขึ้นและสอบถามจึงทราบความเป็นมาของจงขุ่ย จากนั้นจึงบัญชาให้จิตรกรเอกนาม อู๋เต้าจื่อ วาดภาพตามที่ทรงเห็นในพระสุบิน และนำออกแจกจ่ายชาวบ้าน เพื่อนำติดที่หน้าบ้านป้องกันสิ่งอัปมงคลและสิ่งชั่วร้ายนานับประการ
ตามปฏิทินจีนจะมีวันเทศกาลตวนอู่ คือวันที่ 5 เดือน 5 ซึ่งอาจจะถือเป็นวันฮัลโลวีนของชาวจีนก็ได้ เนื่องจากเป็นวันที่ปล่อยผีออกมาพบญาติ
ลักษณะของจงขุ่ยที่มักปรากฏคือ เทพเจ้าหน้าดำ ตาโปนโต หนวดเคราชี้ชัน สวมชุดขุนนางสีแดง ในมือถือกระบี่ตลอดเวลา ว่ากันว่าเทพเจ้าจงขุ่ยมีทหารในสังกัด 3 พันนาย เพื่อต่อสู้กับปีศาจร้าย