Lost in Thailand
ช่วงปลายปีของแต่ละปีถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาทองของการฉายภาพยนตร์ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องต่างใช้ช่วงเวลานี้ในการฉายภาพยนตร์ของตน และสามารถกอบโกยรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ในปี ค.ศ. 2012 ได้มีอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ทุนสร้างไม่มากนัก เพียงแค่ 30 ล้านหยวน แต่สามารถที่จะมีรายได้มากกว่า 1,000 ล้านหยวน พร้อมกับตำแหน่งภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดอันดับหนึ่งที่เคยมีมาของประเทศจีน
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศจีนอาจจะยังเติบโตไม่มากนัก หากเทียบกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศตะวันตก แต่ก็มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการที่ประเทศจีนมีประชากรมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก ยิ่งส่งผลให้รายได้ของการฉายภาพยนตร์ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก แต่ก่อนภาพยนตร์ของจีนโดยมากแล้วมักจะเป็นภาพยนตร์ที่เน้นภาพอลังการ บทที่หนัก แฝงไปด้วยปรัชญา แต่ภาพยนตร์ Lost in Thailand ได้เปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับภาพยนตร์ในประเทศจีนใหม่หมด
ภาพยนตร์ Lost in Thailand กำกับโดยสวีเจิง และยังแสดงเป็นตัวละครนำของเรื่องอีกด้วย ร่วมด้วยหวังเป่าเฉียงที่แสดงได้สมบทบาทและสร้างเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี นอกจากจะได้รับรายได้ที่มากเป็นประวัติการณ์แล้ว ภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand ยังได้รับคะแนนวิจารณ์ในด้านที่ดีอีกด้วย โดยมีผู้กล่าวว่า จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่การนำเสนอที่แตกต่างไปจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ รวมถึงการที่ไม่มีการใช้มุขคำหยาบเพื่อสร้างความตลก และยังแฝงเรื่องราวที่น่าประทับใจให้แก่ทุกคนในครอบครัว
เรื่องราววุ่นๆ เรื่องนี้เริ่มจากที่สวีเจิงเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในประเทศจีน ได้พบเจอคำทำนายที่ว่าโลกจะแตกเมื่อสิ้นปี ค.ศ. 2012 จึงคิดที่จะออกท่องเที่ยวทิ้งท้ายโดยเลือกที่จะมาเยือนประเทศไทย เพื่อหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่ต่างไปจากที่เคยรู้จัก เมื่อเขามาถึงสนามบินก็ทำให้ได้รู้จักกับหวังเป่าเฉียง ชายหนุ่มที่มีความรักให้กับดาราสาวซูเปอร์สตาร์และหวังที่จะถ่ายรูปร่วมกัน เมื่อทั้งคู่ได้พบกันก็พบว่า ความซวยได้เข้ามาหาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการทำสิ่งของต่างๆ เช่น เงิน บัตรเครดิต และพาสปอร์ตหาย ทำให้ทั้งคู่ต้องออกเดินทางร่วมกันในที่สุด
การเดินทางของทั้งสองได้พบเจอกับเรื่องราวแปลกๆ ที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน เช่น การนั่งรถสามล้อ สีสันของรถแท็กซี่ ภาพของรถจักรยานยนต์ที่ขี่กันอย่างแน่นหนา และที่สำคัญคือ การเข้าใจผิดว่าสาวประเภทสองคือสาวแท้เพราะความสวยงาม
หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย ได้เกิดกระแสบอกเล่าแบบปากต่อปาก จนทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 มากยิ่งกว่าภาพยนตร์เรื่อง Titanic 3D ที่ทำรายได้ 976 ล้านหยวน และเป็นภาพยนตร์จีนเรื่องแรกที่สามารถทำรายได้ระดับพันล้านหยวน และยังมีผลทำให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก นั่นคือ การได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ไปยังต่างประเทศ
จากสถิติพบว่า จังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นเป้าหมายของการเดินทางในเรื่อง มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนมายังจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากกว่า 3 เท่า เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ยอดการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวชาวจีนยังมีมาก สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยเป็นจำนวนมหาศาล จากแต่ก่อนที่นักท่องเที่ยวชาวจีนรู้จักแต่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างพระบรมมหาราชวัง พัทยา เป็นต้น แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่รอให้ไปค้นหาอีกเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะสาวประเภทสองของไทยที่เป็นสีสันของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้มีการบอกต่อกันไปว่า สาวประเภทสองของไทยนั้นสวยงามยิ่งกว่าสตรีแท้ๆ เสียอีก จากคำกล่าวนี้ทำให้มียอดผู้ชมที่มาชมการแสดงของสาวประเภทสองมีเพิ่มมากขึ้น และทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากอีกครั้ง
ภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand นั้นยังสามารถจะเพิ่มรายได้มากยิ่งขึ้น และหากสามารถนำไปเผยแพร่ยังประเทศยุโรป ก็อาจจะเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกให้มาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยมากขึ้นกว่าเดิมอีกเป็นแน่