สีจิ้นผิง ผู้นำมังกรรุ่นที่ 5
เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์สามารถมีชัยชนะเหนือรัฐบาลของพรรคก๊กมินตั๋ง และสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1949 ในช่วงแรกตำแหน่งสูงสุดของประเทศ ได้แก่ ตำแหน่ง “ประธานรัฐบาลประชาชนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน” ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ประธานแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน” และเป็น “ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน” ในปัจจุบัน
(เหมาเจ๋อตุง ประธานแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน คนแรก)
โดยตำแหน่งประธานาธิบดีของจีนมีผู้ดำรงตำแหน่งจนถึงปัจจุบันทั้งสิ้น 5 คน คือ
1. หลี่เซียนเนี่ยน (18 มิถุนายน ค.ศ. 1983 – 8 เมษายน ค.ศ. 1988)
2. หยางซั่งคุน (8 เมษายน ค.ศ. 1988 – 27 มีนาคม ค.ศ. 1993)
3. เจียงเจ๋อหมิง (27 มีนาคม ค.ศ. 1993 – 23 มีนาคม ค.ศ. 2003)
4. หูจิ่นเทา (23 มีนาคม ค.ศ. 2003 – 14 มีนาคม ค.ศ. 2013)
5. สีจิ้นผิง (15 มีนาคม ค.ศ. 2013)
สีจิ้นผิงเป็นบุตรชายของสีจงชุน อดีตรองนายกรัฐมนตรีในสมัยของประธานเหมาเจ๋อตง แต่บิดาได้ถูกลดตำแหน่งลงเป็นกรรมกรเพราะเป็นผู้อนุมัติให้มีการตีพิมพ์หนังสือวิจารณ์ประธานเหมาเจ๋อตง สีจิ้นผิงในขณะนั้นได้เป็นหนึ่งในปัญญาชนจำนวน 29,000 คน ที่ถูกส่งไปรับการศึกษาและเรียนรู้วิถีชีวิตการทำไร่ ทำนา และการปศุสัตว์ โดยที่สีจิ้นผิงได้พยายามที่จะส่งจดหมายเพื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แต่ถูกปฏิเสธมาโดยตลอด จนในที่สุดก็สามารถเข้าเป็นสมาชิกพรรคได้สำเร็จหลังจากพยายามมาหลายครั้ง
เมื่อประธานเหมาเจ๋อตงถึงแก่กรรม ชื่อเสียงของบิดาของสีจิ้นผิงได้รับการฟื้นฟู สีจิ้นผิงได้กลับมารับการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยซิงหวา และได้เข้าทำงานรับใช้พรรคคอมมิวนิสต์ที่มณฑลเหอเป๋ย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการผสมพันธุ์สุกร
สีจิ้นผิงเป็นผู้ริเริ่มความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับไต้หวันในขณะที่ทำงานในมณฑลฝูเจี้ยน จนได้รับตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขาเซี่ยงไฮ้ ในช่วง 7 เดือน ที่เขารักษาการ สีจิ้นผิงได้พัฒนาความสัมพันธ์กับเจียงเจ๋อหมิน แกนนำรุ่นที่ 3 ของจีน
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2012 สีจิ้นผิงได้ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อได้รับคะแนนเสียงจากสภาประชาชนแห่งชาติจีนทั้งสิ้น 2,952 เสียง จาก 3,000 เสียง โดยขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่ออายุ 59 ปี
(การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน หรือ เอ็นพีซี (12th National People's Congress- NPC) ครั้งที่ 12 ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง ภาพจาก เอเอฟพี)
ทั้งนี้สีจิ้นผิงยังดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกลางกองทัพแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกตำแหน่งด้วย ซึ่งต่างไปจากอดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทา โดยสีจิ้นผิงมีวาระการดำรงตำแหน่ง 10 ปี และมีรองประธานาธิบดีคือ หลี่หยวนเฉา กับนายกรัฐมนตรีคือ หลี่เคอเฉียง
(หลี่หยวนเฉา รองประธานาธิบดีจีนคนใหม่ - ภาพจาก เอเอฟพี)
(สีจิ้นผิง(ซ้าย) หลี่เคอเฉียง(ขวา) กำลังแจกลายเซ็นแก่ผู้แทนชนกลุ่มน้อย - ภาพจาก เอเอฟพี)
ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับผู้นำคนใหม่ของจีนเป็นพิเศษ เพราะว่าปัจจุบันประเทศจีนเป็นประเทศที่มีเงินทุนสำรองต่างประเทศสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก อีกทั้งยังมีความสำคัญในด้านต่างๆ และที่ต้องจับตามองคือ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะนำพาสาธารณรัฐประชาชนจีนไปในทิศทางใด